นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีสรงน้ำพระราชทาน พระหลักเมืองน่านและพิธีบวงสรวงพระหลักเมืองน่านวันพญาวัน ณ วัดมิ่งเมือง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยว ในการนี้ นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน มอบหมายให้นางอริสา บุญสม รองนายกเทศมนตรีเมืองน่านร่วมพิธีดังกล่าว
(15 เมษายน 2566) ที่วัดมิ่งเมือง นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานประกอบพิธีสรงน้ำ พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงพระราชทานผ้าไตร จำนวน 10 ไตร ในงานประเพณีสมโภชสรงน้ำพระหลักเมืองน่าน ในเทศกาลสงกรานตืปี๋ใหม่เมือง 2566 พิธีสรงน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 15 อำเภอใน จ.น่าน ถวายพวงมาลัย ถวายผ้าดิ้นทอง ดิ้นเงิน ดิ้นนาก พิธีบวงสรวงพระหลักเมืองน่าน และสืบชะตาเมือง คนเมืองน่านในสมัยโบราณเรียกขานว่า "เสามิ่งเมือง" หรือ "เสามิ่ง" สมเด็จเจ้าฟ้าอัตถะวรปัญโญ เจ้าผู้ครองเมืองน่านองค์ที่ 57 โปรดให้ฝังเสาพระหลักเมืองน่านลง ณ จุดนี้ ต่อมาในปีพุทธศักราช 2506 ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ น้ำในแม่น้ำน่านได้ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองน่านอย่างรุนแรง กระแสน้ำได้เซาะรากโคนเสาพระหลักเมืองซึ่งผุกร่อนมาก เพราะฝังดินมาเป็นเวลานานกว่า 170 ปี จนถอนโค่นลง เจ้าอาวาสจึงได้นำเสาไปผูกมัดไว้ใต้ถุนหอกลองหลังวัด เมื่อน้ำลดเป็นปกติแล้ว เจ้าอาวาสจึงได้พร้อมกับคณะศรัทธาวัดมิ่งเมืองแห่งนี้ ร่วมกันสร้างเสาพระหลักเมืองจำลองขึ้น ณ ที่เดิม โดยทำเป็นเสาก่อด้วยอิฐถือปูน ก่อฐาน 4 เหลี่ยมลดหลั่นเป็นชั้น ตัวเสาสูงประมาณ 1 เมตรครึ่ง ฐานสูงประมาณ 1 เมตรเศษ ทาด้วยปูนขาว เสาพระหลักเมือง ซึ่งอยู่ในศาลาจตุรมุข ด้านหน้าพระอุโบสถ เสาหลักเมืองสูงประมาณ 3 เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลัก เป็นรูปพรหมพักตร์มีชื่อ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ณ วัดมิ่งเมือง ได้จัดให้มีประเพณีบวงสรวงสักการะเสาพระหลักเมือง ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี ถือเป็นวันพญาวัน โดยมีพิธีบวงสรวงตามแบบพื้นเมืองน่านโบราณ แบ่งตามทิศของเศียรพรหมสี่หน้า โดยมีเครื่องบวงสรวงเครื่องแก้มอารักษ์เช่น หมู ไก่ ปลา ข้าวต้มมัด ขนมหวาน ที่ได้รับการจัดแต่งอย่างประณีตงดงามตามแบบพื้นเมืองน่าน เพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่บ้านเมือง และให้อนุชนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงความสำคัญของเสาพระหลักเมืองน่าน ที่เป็นหนึ่งในความเชื่อสำคัญในการสร้างบ้านแปงเมืองของบรรพบุรุษสืบต่อไป